วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560


รำฉุยฉายวันทอง

             ความเป็นมา
        ฉุยฉายวันทอง อยู่ในการแสดงละคร เรื่อง  "ขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวยแตกทัพ  
" เนื้อเรื่องกล่าวถึง   ขุนแผนแค้นใจพระไวยผู้เป็นบุตรชาย ที่ไปหลงเสน่ห์นางสร้อยฟ้า
 จึงคบคิดกับพลายชุมพลบุตรชายอันเกิดจากนางแก้วกิริยาธิดาเจ้าเมืองสุโขทัย 
 นัดแนะให้พลายชุมพลปลอมตัวเป็นมอญใหม่ และผูกหุ่นฟางเสกเป็นไพร่พลมอญยกทัพ
  เพื่อมาตีกรุงศรีอยุธยา โดยพลายชุมพลยกเข้ามาตั้งค่ายอยู่ ณ ตำบลเดิทบาง 
ครั้นพระพันวษาได้ทรงทราบก็ตรัสสั่งให้ขุนแผนกับเจ้าเมืองสุพรรณบุรี 
ร่วมกันยกทัพไปปราบปราม ขุนแผนกับเจ้าเมืองสุพรรณบุรี
 ร่วมกันยกทัพไปตั้งค่ายรับอยู่ ณ ตำบลนางบวช (ใต้ตำบลเดิมบางลงมา)
 แล้วขุนแผนกับพลายชุมพลต่างก็ใช้อุบายติดต่อให้สัญญากัน
 พอตกกลางคืนตอนใกล้รุ่ง
 พลายชุมพลจึงยกทัพหุ่นเข้าตีค่ายของขุนแผนและเจ้ามืองสุพรรณบุรี 
ขุนแผนทำทีขี่ม้าเข้าต่อสู้ตีฝ่าข้าศึก แล้วทำเป็นเพลี้ยงพล้ำให้ข้าศึกจับตัวไปได้ 
ครั้นกองทัพเจ้าเมืองสุพรรณบุรีเห็นขุนแผนถูกจับไป กองทัพก็แตกพ่าย
 กลับมาทูลข่าวแด่พระพันวษา ด้านขุนแผนกับพลายชุมพลก็เคลื่อนกองทัพหุ่นยกล่วง
มาตั้งอยู่ ณ ชายป่าในเขตบ้านตาลาน ชานกรุงศรีอยุธยา พระพันวษาออกว่าราชการ 
ทรงทราบเรื่องกองทัพมอญใหม่ที่จับตัวขุนแผนไป ทรงกริ้วมากตรัสสั่งให้ไปตาม
เจ้าหมื่นไวยวรนารถ หัวหมื่นมหาดเล็ก ลูกชายของขุนแผนมา เมื่อเจ้าหมื่นไวยวรนารถรู้เรื่อง
ก็ตกใจ จึงรีบรับอาสาทันที เส้นทางที่กองทัพพระไวยจะผ่านไปนั้น เป็นป่าเปลี่ยว 
นางวันทองแม้มีความผิดต้องประหารชีวิตไปตามพระราชโองการของพระพันวษาแล้วแต่
ด้วยความรักอาลัยต่อพระไวยผู้เป็นบุตร เมื่อรู้ว่าพระไวยจะยกกองทัพผ่านมาทางนี้ 
จึงสำแดงร่างอสุรกายให้ปรากฏ แล้วแปลงร่างเป็นนางงามขับร้องเพลงเล่นชิงช้าคอยทีอยู่
ใต้ต้นไทรใหญ่ เมื่อพระไวยผ่านมาก็ได้ยินเสียงขับร้องของสตรี จึงสั่งให้หยุดกองทัพ 
แล้วลงจากม้าเดินไปตามเสียง ก็พบนางงามรุ่นเจริญวัย กำลังเล่นชิงช้าและขับร้องเพลงอยู่
 อย่างสบายใจ พระไวยจึงเดินเข้าไปหาและเกี้ยวพาราสี


รูปแบบ และลักษณะการแสดง
        ฉุยฉายวันทอง เป็นการแสดงความงดงามของหญิงสาว 
แต่งตัวสวยเพื่อจะไปหาบุตรชาย แต่บุตรชายกลับมาหลงรักห้ามเท่าไรก็ไม่ฟังนางจึงกลับร่าง เป็นอสุรกายดังเดิม   การรำแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆดังนี้
        ขั้นตอนที่ 1 รำสอดสร้อยออกในเพลงรัวแล้วป้องหน้า
        ขั้นตอนที่ 2 รำตีบทตามคำร้องฉุยฉาย และแม่ศรี
        ขั้นตอนที่ 3 รำเข้าตามทำนองเพลงเร็ว – ลา

เครื่องแต่งกาย
        ผู้แสดงแต่งกายห่มสไบผ้าตาดทองลายม่วง นุ่งผ้าจีบหน้านางสีม่วง 
ตามบทประพันธ์ ศิราภรณ์กระบังหน้า


ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง
        ใช้วงปี่พาทย์ไม้แข็ง
        เพลงที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดง ได้แก่เพลงรัว เพลงฉุยฉาย เพลงแม่ศรี 
เพลงเร็ว (คุดระนาดเหยียบกรวด) และเพลงลา  

ท่ารำดังนีั้

        
  รำฉุยฉายวันทอง ท่ารำที่สวยงามและมาจากวรรณคดีไทย เป็นการรำเดี่ยว 
    เป็นองการเปิดตัวของนางวันทอง


ที่มา http://patdramaa111.srp.ac.th/ra-chuychay-wan-thxng

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฟ้อนหมากกั๊บแก้บ - ลำ หมากกั๊บแก้บ(กรับ)   เป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะของภาคอีสาน มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ 1. กั๊บแก้บไม้สั้น เป็นไ...